กำเนิดสปีชีส์
มีกี่สปีชีส์
ไม่มีใครรู้ว่าโลกเรามีสิ่งมีชีวิตอยู่กี่สปีชีส์จนถึงขณะนี้มีผู้พบแล้ว
1.4 ล้านสปีชีส์750,000
สปีชีส์เป็นแมลง 250,000 เป็นพืชและ 41,000
เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง แต่อาจมีมากกว่านี้มากซึ่งน่าจะเป็นแมลงที่ซ่อนตัวอยู่ตามป่าชื้นนักชีววิทยาคนหนึ่งพบว่ามีแมลงถึง
3,000 ชนิดบนต้นไม้ในเขตร้อนเพียงต้นเดียว
และคำนวณไว้ว่าน่าจะมีแมลงถึง 30 ล้านสปีชีส์ที่ยังมีชีวิตอยู่
แต่เวลาผ่านไปรวดเร็วมากหลายสปีชีส์สูญพันธุ์ก่อนที่จะได้รับการบันทึกไว้ด้วยซ้ำไป
การเกิดสปีชีส์ใหม่
กว่า 3.5
ล้านล้านปีของสิ่งมีชีวิตบนโลก
มีสิ่งมีชีวิตสปีชีส์ใหม่ๆนับจำนวนไม่ถ้วนที่วิวัฒนาการมาอยู่ได้ระยะเวลาหนึ่งแล้วก็สูญพันธุ์แม้ว่าหลายสปีชีส์จะมีลักษณะบางอย่างร่วมกันและหลายสปีชีส์อาจมองดูคล้ายคลึงกัน
แต่ละสปีชีส์ก็แตกต่างจากสปีชีส์อื่นๆที่เคยมีชีวิตอยู่
ทุกสปีชีส์มีลักษณะเฉพาะตัว นับจากไดโนเสาร์ไทรันโนซอรัสเร็กซ์ (Tyrannosaurasrex) จนถึงผึ้งลักษณะที่เราเห็นในสปีชีส์กลุ่มใหม่ๆเป็นผลจากการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตต่อการเปลี่ยนแปลงบางประการที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อม
สภาพการณ์ดังกล่าวไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้อีก ดังนั้นเมื่อสปีชีส์ใดสูญพันธุ์หรือปรับตัวเองจนเปลี่ยนเป็นสปีชีส์ใหม่แล้วจะสูญหายไปจากโลกอย่างสิ้นเชิง
ทฤษฎีวิวัฒนาการของชาลส์ดาร์วินแสดงให้เห็นว่าสปีชีส์เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไรและความเข้าใจในวิวัฒนาการอย่างลึกซึ้งของเขาช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมจึงมีสิ่งมีชีวิตมากมายหลายประเภทในโลก
การทำให้เกิดสปีชีส์ใหม่ด้วยการขัดขวางมิให้เกิดการสืบพันธุ์
การเกิดสปีชีส์ (speciation) เป็นวิธีการสำคัญที่ทำให้เกิดสปีชีส์ใหม่
โดยการแยกกลุ่มเก่าออกจากกัน หมู่เกาะกาลาปากอสมีนกกระจอก (finch) หลายสปีชีส์ นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่าเมื่อ 2-3 ล้านปีที่แล้วมานกกระจอกกลุ่มหนึ่งจากอเมริกาใต้ถูกลมพัดมาติดที่เกาะหนึ่งและตั้งรกรากอยู่ที่นั่น
ต่อมานกเหล่านี้กลุ่มเล็กๆ
บินไปอยู่อีกเกาะหนึ่งปัจจุบันนกสองกลุ่มนี้แยกกันอยู่คนละเกาะและผสมพันธุ์กันไม่ได้เนื่องจากแต่ละกลุ่มจะปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมบนเกาะที่อยู่นานเป็นพันปี
นกสองกลุ่มนี้จะมีพันธุกรรมแปลกแยกจากกันมากขึ้นทุกปีจนกลายเป็นพันธุกรรมเฉพาะกลุ่มของตนเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้งจนมีนกกระจอกสปีชีส์ใหม่เกิดขึ้นหลายสปีชีส์
วิวัฒนาการแบบปรับตัวเข้าหากัน
สิ่งมีชีวิตสปีชีส์ใหม่ๆแต่ละสปีชีส์จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ผลจากการปรับตัวนี้ทำให้สปีชีส์ที่มิได้เกี่ยวข้องกันแต่ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเหมือนกันจนปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันจนดูคล้ายคลึงกัน
เช่น หมาป่าแทสเมเนียที่มองดูเหมือสุนัข แต่แท้จริงแล้วเป็นพวกมาร์ซูเปียล (marsupial) ที่ดำเนินชีวิตเหมือนสัตว์กินสัตว์
เช่น สุนัขและหมาป่า
สปีชีส์หรือสปีซีส์ (อังกฤษ: Species)
หมายถึง
กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เราเห็นว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก ดังเช่น สปีชีส์ "พัฟฟิน" (Puffin) หมายถึง
นกกลุ่มหนึ่งที่พบทั่วไปในแถบแอตแลนติกเหนือพัฟฟินผสมพันธุ์ในโพรงบนพื้นดิน
และมีจะงอยปากหลายสี ตีนสีส้มและมีท่าเดินน่าขบขัน
คำอธิบายเช่นนี้มีประโยชน์แต่นักวิวัฒนาการแยกสิ่งมีชีวิตออกเป็นสปีชีส์ได้ด้วยวิธีที่ง่ายกว่านี้มากกล่าวคือสิ่งมีชีวิตสปีชีส์เดียวกันจะต้องผสมพันธุ์กันได้และมีลูกด้วยกันได้
พัฟฟินจะผสมกับพัฟฟินด้วยกันเองมิใช่กับนกชนิดอื่น เช่นเรเซอร์บิลล์ (razorbill) หรือกิลลิมอต (guillemot) ดังนั้นนกเหล่านี้จึงเป็นนกต่างสปีชีส์ไปจากพัฟฟิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น